ในปี 2565 นี้ ทําประกันให้ลูกของอะไรดี AIA มี ประกันสุขภาพเด็ก ประกันสุขภาพลูกน้อย ประกันสุขภาพทารกแรกเกิด แบบไหนไว้สร้างความคุ้มครองให้ลูกรักและให้คุณพ่อคุณแม่ได้เลือกวางแผนประกันสุขภาพให้ลูกกันบ้าง AIAplanner ทีมงานตัวแทนประกันชีวิตและประกันสุขภาพ จาก เอไอเอ ได้เรียบเรียงข้อมูลทั้งความคุ้มครอง ราคา ค่าเบี้ย และข้อดีข้อด้อย ไว้ในบทความนี้ให้ได้ศึกษาเปรียบเทียบข้อมูลกันค่ะ
แผนประกันสุขภาพเด็ก ประกันสุขภาพลูกน้อยลูกน้อย ของ AIA ในปี 2565 มีอะไรบ้าง
สำหรับเด็กเล็ก มีโอกาสเจ็บป่วยได้บ่อยกว่าเด็กวัยอื่นๆ และด้วยค่ารักษาพยาบาลที่มีราคาสูงในปัจจุบันก็เป็นปัญหาที่สำคัญของคุณพ่อคุณแม่หลายๆครอบครัว การเจ็บป่วยเป็นไข้ทั่วไปหากต้องไปรักษาตัวในโรงพยาบาลในปัจจุบันอาจมีค่าใช้จ่ายได้ถึง 30,000-50,000 บาทต่อครั้งเป็นเรื่องปกติ และหากป่วยเป็นโรคที่ต้องนอนนานๆ เช่น RSV หรือ โควิด ซึ่งเป็นโรคที่คุณพ่อคุณแม่ส่วนใหญ่กังวลมาก อาจมีค่าใช้จ่ายสูงไปถึงหลักแสนบาทได้ เพื่อเป็นตัวช่วยดูแลและบรรเทาเรื่องค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลของลูกน้อยให้กับคุณพ่อคุณแม่ บริษัท AIA ได้มีการออกแบบผลิตภัณฑ์ ประกันเด็ก ออกมาเพื่อตอบสนองความต้องการของคุณลูกค้า สำหรับปีนี้ มีแบบประกันแบบไหนไว้เป็นตัวเลือกให้คุณพ่อคุณแม่เลือกใช้สร้างความคุ้มครองให้กับลูกรักบ้าง เรารวบรวมข้อมูลมาให้คุณพ่อคุณแม่ได้พิจารณากันค่ะ
1. ประกันสุขภาพเด็ก แบบมี OPD – AIA H&S EXTRA
แผนประกันสุขภาพ ค่าเบี้ยประกันแบบคุ้มค่า พร้อมผลประโยชน์ค่ารักษาพยาบาล ทั้งผู้ป่วยใน (IPD) และ ผู้ป่วยนอก (OPD) อีกทั้งผลประโยชน์เงินคืนพิเศษกรณีปีไหนไม่ได้เคลม


- ค่าห้อง ค่าอาหาร บริการโรงพยาบาล แผนสูงสุด 6,500 บาทต่อวัน
- ค่าแพทย์สูงสุดวันละ 1,200 บาท
- ค่าแพทย์ผ่าตัดและหัตถการสูงสุด 120,000 บาท ต่อครั้ง
- ค่ารักษาพยาบาลอื่นๆในโรงพยาบาล (เช่น ค่ายา ค่าเวชภัณฑ์ ค่าตรวจทางห้องปฏิบัติการ) สูงสุด 40,000 บาท ต่อครั้ง
- ค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยนอก (OPD) สูงสุด 9,000 บาท ต่อปี
- ผลประโยชน์เงินคืนพิเศษสูงสุด 4,500 บาท ต่อปี
- อายุรับประกัน 1 เดือน – 75 ปี ต่ออายุได้จนถึง 85 ปี
ตัวอย่างการวางแผน กรณีเด็กชายอายุ 1 เดือน ทำแผนค่าห้อง 3500 บาท + ประกันชีวิตหลักความคุ้มครอง 100,000 บาท (20 PLNP) ค่าเบี้ยรวม 47,550 + 1,276 = 48,826 บาท
2. ประกันสุขภาพเด็กควบการลงทุน AIA H&S EXTRA – UDR
ประกันสุขภาพเด็ก AIA H&S EXTRA – UDR ประกันสุขภาพแบบมีออมในกองทุนรวม เพื่อวางแผนค่ารักษาพยาบาล และวางแผนการออมการลงทุนสะสมเงินให้ลูกในอนาคตไปพร้อมกัน

ตัวอย่างการวางแผน
-
- แผนค่ารักษาพยาบาล AIA H&S Extra-UDR ค่าห้อง อาหาร วันละ 4,500 บาท
- ค่าแพทย์วันละ 1,000 บาท
- วงเงินค่าผ่าตัดครั้งละ 100,000 บาท
- ค่ายา น้ำเกลือ แล็บ เวชภัณฑ์ พยาบาล 30,000 บาท ต่อการรักษาตัวเป็นผู้ป่วยในครั้งใดครั้งหนึ่ง
- ค่ารักษาพยาบาลฉุกเฉินเนื่องจากอุบัติเหตุ แบบผู้ป่วยนอกภายใน 24 ชั่วโมงครั้งละ 8,000 บาท
- วงเงินค่ารักษาแบบ OPD สำหรับการเจ็บป่วยทั่วไป ปีละ 7,000 บาท
- ถ้าทั้งปีไม่ได้เคลมมีเงินคืน 3,500 บาท
- คุ้มครองชีวิต 360,000 บาท
- คุ้มครองกรณีทุพพลภาพ 360,000 บาท
รวมความคุ้มครองทั้งหมด ชำระเบี้ยปีละ 61,358 บาท
3. ประกันสุขภาพเด็กเหมาจ่าย AIA HEALTH HAPPY – UDR
ประกันสุขภาพเด็กแบบเหมาจ่ายวงเงินสูง พร้อมการลงทุนในกองทุนรวม ที่ถูกออกแบบมาสำหรับแนบกับประกันควบการลงทุน AIA ISSARA PLUS (UNIT LINKED) เพิ่มโอกาสรับผลตอบแทนที่มากกว่า ได้ทั้งประกันสุขภาพ เงินออม และการลงทุนเพื่อสร้างกองทุนมาดูแลประกันสุขภาพระยะยาวให้ลูกในอนาคต


ตัวอย่างการวางแผน กรณีเด็กชายอายุ 1 เดือน คุณพ่อคุณแม่ต้องการวางแผนประกันสุขภาพเด็กให้ลูก พร้อมสร้างเงินเก็บเงินออม และเงินลงทุนให้ลูกในอนาคต
โดยวางแผนค่ารักษาพยาบาลวงเงินปีละ 5,000,000 บาท ต่อปี ความคุ้มครองประกันชีวิตหลัก AIA ISSARA PLUS ให้ความคุ้มครองชีวิต 650,000 บาท และความคุ้มครองกรณีทุพพลภาพอีก 650,000 บาท เบี้ยประกันรวมปีละ 72,000 บาท
- เพิ่มโอกาสได้รับผลตอบแทนโดยการลงทุนผ่านกองทุนรวม
- เบี้ยรวมคงที่ตลอดสัญญา
- การันตีการรับประกันต่อเนื่องตลอดสัญญา
- สามารถวางแผนระยะเวลาชำระเบี้ยได้
- ลดภาระการจ่ายเบี้ยประกันระยะยาว
- สามารถถอนหน่วยลงทุนมาใช้ได้

สามารถวางแผนได้หลากหลายรูปแบบ เช่น
- สร้างเป็นแผนประกันสุขภาพและกองทุนการศึกษาหรือเงินทุนให้ลูกในอนาคต
- สามารถวางแผนสะสมเงินในกองทุนช่วงระยะเวลาหนึ่ง เช่น 20, 25 หรือ 30 ปี หลังจากนั้นหยุดชำระเบี้ย แล้วให้ผลตอบแทนจากหน่วยลงทุนมาดูแลค่าเบี้ยประกันสุขภาพให้ลูกต่อในระยะยาวได้ (สัญญาสุขภาพคุ้มครองได้สูงสุดที่อายุ 85 ปี)
- สามารถถอนหรือเพิ่มเงินออมในหน่วยลงทุนได้ (ตามมูลค่าหน่วยลงทุนที่มีคงอยู่ในกรมธรรม์ในช่วงนั้นๆ)
“สามารถปรึกษาตัวแทนที่มีใบอนุญาตแนะนำการลงทุนและสิทธิในการแนะนำผลิตภัณฑ์ Unit Linked เพื่อวางแผนให้เหมาะสมกับแต่ละบุคคลไป”
กรณีกองทุนที่ลูกค้าเลือกทำผลตอบแทนเฉลี่ยได้ประมาณ 5% ต่อปี
- ปีที่ 20 จะมีมูลค่าหน่วยลงทุนประมาณ 8 แสนบาท
- ปีที่ 30 จะมีมูลค่าหน่วยลงทุนประมาณ 1.9 ล้านบาท
*เป็นค่าประมาณการผลตอบแทนจริงจะขึ้นอยู่กับสภาพตลาดการลงทุน ณ ตอนนั้น
* ต้องทำผ่านตัวแทนที่ได้รับสิทธิในการขายผลิตภัณฑ์ Unit Linked และมีใบอนุญาตผู้แนะนำการลงทุนเท่านั้น
** การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้เอาประกันควรประเมินความสามารถในการรับความเสี่ยง และศึกษาเรื่องการลงทุนก่อนการตัดสินใจ
*** ผลตอบแทนที่แสดงเป็นค่าประมาณการผลตอบแทนจากการลงทุนเฉลี่ยกลางๆที่ 5% ต่อปี ซึ่งผลตอบแทนที่แทนจริงจะขึ้นอยู่กับการวางแผนการลงทุนและสภาพตลาด อาจจะมีความผันผวนระหว่างทาง ซึ่งทำให้ได้ผลตอบแทนน้อยหรือ มากกว่า ที่ประมาณการไว้ได้ ซึ่งหากลูกค้าลงทุนได้ผลตอบแทนที่มากกว่ามูลค่าหน่วยลงทุนสะสมที่จะถอนจากกรมธรรม์ได้ก็จะมากกว่า
กองทุนรวม คือ การรวบรวมเงินทุนจากนักลงทุนทั่วไป คนละเล็กคนละน้อย เพื่อรวมเป็นเงินก้อนขนาดใหญ่ แล้วนำเงินที่รวบรวมนั้นไปลงทุนตามที่ได้ตกลงกับนักลงทุน กองทุนที่รวบรวมเงินที่ได้นี้จะได้รับการบริหารจัดการจากบริษัทจัดการกองทุนซึ่งมีหน้าที่ลงทุนแทนนักลงทุนหรือผู้ถือหน่วยลงทุน และจะมีการจัดตั้งผู้ดูแลผลประโยชน์เพิ่มขึ้นมาอีกซึ่งกฎหมายจะกำหนดเอาไว้ เพื่อคอยดูแลเงินกองทุนนั้นแทนนักลงทุนที่นำเงินมาลงทุน ในกรณีที่บริษัทจัดการกองทุนล้ม ผู้ดูแลผลประโยชน์ก็จะชดเชยให้กับนักลงทุน หรือบริษัทจัดการกองทุนไม่ได้ทำตามหนังสือชี้ชวนผู้ดูแลผลประโยชน์ก็จะเอาผิดบริษัทจัดการกองทุนแทนผู้ถือหน่วยลงทุนได้เช่นกัน
ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.set.or.th > [ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย]
นิยามประกันสุขภาพแต่ละแบบ
- ประกันสุขภาพผู้ป่วยใน (IPD) คือ ประกันที่คุ้มครองผู้ที่จำเป็นต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลติดต่อกันไม่น้อยกว่า 6 ชั่วโมง ซึ่งต้องลงทะเบียนเป็นผู้ป่วยในโดยได้รับการวินิจฉัย และคำแนะนำจากแพทย์ตามข้อบ่งชี้ ซึ่งเป็นมาตรฐานทางการแพทย์ และในระยะเวลาที่เหมาะสมสำหรับการรักษาการบาดเจ็บหรือการเจ็บป่วยนั้นๆ
- ประกันสุขภาพผู้ป่วยนอก (OPD) คือ ประกันที่คุ้มครองผู้ที่รับบริการอันเนื่องจากการรักษาพยาบาลในแผนกผู้ป่วยนอกของโรงพยาบาล หรือในห้องรักษาฉุกเฉินของโรงพยาบาล ซึ่งไม่มีความจำเป็นตามข้อวินิจฉัยและข้อบ่งชี้ซึ่งเป็นมาตรฐานทางการแพทย์ในการเข้ารักษาเป็นผู้ป่วยใน
- ประกันสุขภาพแบบแยกค่าใช้จ่าย คือ ประกันที่คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลโดย แบ่งวงเงินความคุ้มครองแยกสำหรับแต่ละรายการ เช่น ค่าห้อง ค่าอาหาร ค่าแพทย์ ค่าผ่าตัด ค่ายา และค่ารักษาพยาบาลอื่น ๆ
- ประกันสุขภาพแบบเหมาจ่าย คือ ประกันที่คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลในโรงพยาบาลตามจริงแบบเหมาจ่าย เช่น ค่าตรวจวินิจฉัยทางรังสีวิทยา ค่ารักษาพยาบาลโดยการผ่าตัด ค่ารถพยาบาลฉุกเฉิน ค่ายา เวชภัณฑ์และค่ารักษาพยาบาลอื่นๆ นำมาคิดค่าใช้จ่ายรวมในวงเงินเดียวกัน แต่อาจมีการจำกัดในส่วนค่าห้องต่อวันไว้ ปัจจุบันสามารถเลือกวงเงินผลประโยชน์สูงสุดได้ตั้งแต่ 1 ล้าน ถึง 5 ล้านบาทต่อปี
สรุป
คุณพ่อคุณแม่ทุกท่านคงได้ข้อมูลและตัวอย่างคร่าวๆของ แผนประกันสุขภาพเด็ก AIA แต่ละแผนกันแล้ว แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นประกันสุขภาพที่เหมาะสมลูกน้อยของแต่ละท่านก็จะมีความแตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับ เพศ อายุ ประวัติสุขภาพ ความคุ้มครองที่ต้องการ โรงพยาบาลที่สะดวกใช้บริการในวันที่ลูกเจ็บป่วย และ งบประมาณของคุณพ่อคุณแม่แต่ละครอบครัวไป หากต้องการปรึกษาเพิ่มเติม หรือต้องการทำประกันสุขภาพให้ลูก INBOX เข้ามาสอบถามข้อมูลกันได้ค่ะ